เลือกตั้ง 2566 – จตุพร ลั่น ก้าวไกลคือคู่แข่งตัวจริงของเพื่อไทย
หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยประกาศว่า จะไม่ร่วมกับ ทั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ความนิยมของพรรคกลับมาหรือไม่ เพราะ หลายคนเชื่อว่า การที่เพื่อไทยประกาศแบบนี้ เพราะ ต้องการเรียกความนิยมคืนมาจากพรรคก้าวไกล
ล่าสุดนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์ว่า คู่แข่งตัวจริงของพรรคเพื่อไทย คือ พรรคก้าวไกล ไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์หรอก เพราะว่าพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล มีตลาดเดียวกัน
เลือกตั้ง 2566 : “อุ๊งอิ๊งค์” ลั่น ดูหน้าดิฉันไว้ไม่จับมือคนรัฐประหาร
เลือกตั้ง 2566 : "เศรษฐา" นำทีมเดินสายปราศรัยใหญ่ภาคอีสาน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ยัง วิจารณ์ว่า พรรคก้าวไกลเป็นอนาคต แต่พรรคเพื่อไทยเป็นอดีต
เมื่อพูดถึงคนรุ่นใหม่ ทีมข่าวพาไปดูจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ข้อมูลนี้เป็นของ สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง อ้างอิงเมื่อ ธันวาคม 2565 พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อจำแนกตาม GEN มา 6.6 ล้านคน อายุ 18-25 ปี หรือที่เราเรียกกันว่า GEN Z ส่วน GEN Y (26-41ปี) 15.1 ล้านคน GEN X (42-57ปี) 16.1 ล้านคน Baby Boomer (58-76ปี) 11.8 ล้านคน GEN Silent (77 ปีขึ้นไป) 2.5 ล้านคน
จากข้อมูลนี้จะเห็นว่า ถ้า รวมคนรุ่นใหม่ GEN Z กับ GEN Y เข้าด้วยกัน ก็คิดเป็นเกือบครึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งคนกลุ่มนี้ถูกวิเคราะห์ว่า ต้องการเลือกคนที่ชัดเจนมากกว่าคนแทงกั๊ก นี่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ พรรคเพื่อไทยเลือกประกาศจุดยืนเพราะหวังเรียกคะแนนนิยมจากคนกลุ่มนี้